สว่างใดในหล้าว่าสว่าง
จะหาอย่างปัญญาจะหาไหน
ถึงตะวันจันทร์ส่องผ่องอำไพ
ไม่ส่องใจให้สว่างอย่างปัญญา
แสงสว่างกลางนภาขอบฟ้ากว้าง
แม้สว่างห่างไกลถึงไหนหนา
ไม่เสมอเหมือนสว่างทางปัญญา
ทุกทิวาคืนค่ำไม่กำบัง ฯ
คนรักกันอยู่ไกลสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคาเข้ามาเบียดดูเสียดสี
อันชังกันนั้นใกล้แค่องคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่าเข้ามาบัง ฯ
ถ้าแคบนักมักคับขยับยาก
ถ้ากว้างมากไม่มีอะไรจะใส่สม
ถ้าสูงนักมักจะลอยไปตามลม
ถ้าต่ำนักมักจะจมลงบาดาล ฯ
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ฯ
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย
ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่จะได้มีวิชา
เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน
จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน
เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอ๋ย ฯ
จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู
คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย
อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
จะซื้อง่ายขายดีมีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ ฯ
ถ้าไม่มีการให้อภัยผิด
และไม่คิดจะลืมซึ่งความหลัง
จะหาสามัคคียากลำบากจัง
ความผิดพลั้งย่อมมีทั่วทุกตัวคน ฯ
จะหักอื่นขืนหักก็จักได้
หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
สารพัดตัดขาดประหลาดนัก
แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ ฯ
คนจะดีมีค่ามหาศาล
อยู่ที่งานการกิจสำฤทธิ์ผล
อีกศีลธรรมนำจูงผดุงตน
เป็นมงคลศรีสวัสดิ์พัฒนา
อันคนดีมิใช่ดีตรงมีทรัพย์
มิใช่นับพงศ์พันธุ์ชันษา
คนดีนี้ดีด้วยการงานนานา
อีกวิชาศีลธรรมนำให้ดี
ค่าของคนมิใช่นับที่ทรัพย์มาก
หรือนับจากรูปลักษณ์สูงศักดิ์ศรี
หากเกิดแต่คุณงามและความดี
ผลงานที่ทำไว้อย่างไพบูลย์ ฯ
อันกายสัตว์ซึ่งอุบัติในโลกนี้
ดูไม่มีอะไรเห็นเป็นแก่นสาร
พอสิ้นลมก็พลอยจมถมดินดาน
แต่ชื่อเสียงนั้นยังนานอยู่นอนวัน ฯ
จะเป็นสุขก็ต้องทุกข์ลงทุนก่อน
จะเป็นก้อนทีละน้อยค่อยประสม
จะเป็นพระก็ต้องละกามารมณ์
จะเป็นพรหมก็ต้องเพียรเรียนทำฌาน ฯ
จะเป็นพรหมก็ต้องเพียรเรียนทำฌาน ฯ
เงินกับงานการศึกษาต้องมาก่อน
อย่ารีบร้อนไปหารักงานจักเสีย
ถ้าขาดเงินขาดงานพาลขาดเมีย
งานไม่เสียเงินคงมีเมียคงมา ฯ
อนิจจาสังขารนั้นไม่เที่ยง
เกิดเท่าไรตายเกลี้ยงไม่เหลือหลอ
ทั้งผู้ดีเข็ญใจตายเตียนยอ
แม้แต่หมอก็ต้องตายวายชีวา ฯ
ถึงใครดีมีฤทธิ์พิชิตโลก
เป็นจอมโจกจักรวาลสถานไหน
ก็ไม่อาจผาดแผลงสำแดงชัย
ถึงคราวตายแม้นมีฤทธิ์ก็ปลิดปลง ฯ
ไม่ถึงคราวตายวายชีวาวาต
ใครพิฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญญ์
ครั้นถึงคราวต้องตายวายชีวาวัน
ไม่จิ้มฟันทิ่มเหงือกก็เสือกตาย ฯ
การทำบุญเหมือนนำน้ำสะอาด
มาล้างราดเพื่อชำระอกุศล
จิตสกาวขาวผ่องไม่หมองมน
เป็นบุญล้นควรทำเช้าค่ำเอย ฯ
เป็นบุญล้นควรทำเช้าค่ำเอย ฯ
บุญเป็นเช่นมิตรสนิทรัก
ต้องการนักไม่สิ้นถวิลหา
บุญที่ทำนำส่งอย่าสงกา
ได้พึ่งพาใกล้ชิดเป็นมิตรใจ
ในโลกหน้าปรากฏกำหนดภพ
ต้องประสบสุขสันต์อย่าหวั่นไหว
บุญเป็นมิตรติดตามอยู่ร่ำไป
มิใช่ใครนอกจากวิบากบุญ ฯ
ยศและลาภหาบไปไม่ได้แน่
เว้นเสียแต่ต้นทุนบุญกุศล
ทรัพย์ทั้งหลายทิ้งไว้ให้ปวงชน
แม้ร่างตนเขายังเอาไปเผาไฟ
เมื่อเรามาเราก็มากายาเปล่า
จะได้เอาอะไรมาก็หาไม่
เมื่อเรามามือเปล่าจะเอาอะไร
เราก็ไปมือเปล่าเหมือนเรามา ฯ
อันความตายชายนารีหนีไม่พ้น
ถึงมีจนก็ต้องตายกลายเป็นผี
ถึงแสนรักก็ต้องร้างห่างทันที
ไม่วันนี้ก็วันหน้าจริงหนาเรา ฯ
เมื่อนึกถึงความตายสบายนัก
มันหักรักหักหลงในสงสาร
บรรเทามืดโมหันต์อันธการ
ทำให้หาญหายสะดุ้งไม่ยุ่งใจ ฯ
ทำให้หาญหายสะดุ้งไม่ยุ่งใจ ฯ
จะหนีอื่นหมื่นแสนในแดนโลก
จะย้ายโยกหลบลี้หนีพ้นได้
แต่หนีหนึ่งซึ้งมีชื่อคือความตาย
หนีไม่ได้ใครไม่พ้นสักคนเดียว
ฯ
จะซ่อนกายในกลีบเมฆกลางเวหา
ซ่อนกายาในสมุทรสุดวิสัย
จะซ่อนตัวในหุบเขาลำเนาไพร
ณ ถิ่นใดพ้นตายนั้นไม่มี ฯ
ถูกท่านติต้องตรองมองที่ติ
แล้วเริ่มริลบรอยคอยแก้ไข
ติเพื่อก่อต่อสติติเข้าไป
เป็นบันไดไต่เต้าให้เราดี ฯ
มีเงินทองกองล้นพ้นภูเขา
จะซื้อเอาชีวิตไว้ก็ไร้ผล
อันความตายหมายทั่วทุกตัวคน
ติดสินบนสักเท่าไรชีพไม่คืน ฯ
ยามจะได้ ได้ให้เป็น
ไม่เป็นทุกข์
ยามจะเป็น เป็นให้ถูก ตามวิถี
ยามจะตาย ตายให้เป็น เห็นสุดดี
ได้อย่างนี้ มีแต่สุข ไม่ทุกข์เอย ฯ
อย่าทำในสิ่งที่ไม่มีสิทธิ์
อย่าคิดในสิ่งที่ไม่มีค่า
อย่าหวังในสิ่งที่ไม่มีมา
อย่าคว้าในสิ่งที่ไม่มีทาง ฯ
อย่าคว้าในสิ่งที่ไม่มีทาง ฯ
เมื่อบุคคลทำบุญใดทั้งใหญ่น้อย
ทำบ่อยบ่อยมากครันยิ่งหรรษา
พึงพอใจในบุญมนุญญา
ด้วยศรัทธาผูกพันให้มั่นคง
เพราะสะสมบุญอยู่ไม่รู้ทุกข์
จะมีสุขชื่นชมสมประสงค์
ทั้งภพนี้ภพไหนเหมือนใจจง
อานิสงส์บุญเกื้อทุกเมื่อไป ฯ
อานิสงส์บุญใดไม่เทียบด้วย
ทำบุญด้วยการสร้างทางศึกษา
เป็นการสร้างให้คนดีมีปัญญา
ล้ำเลิศกว่าการสร้างอย่างใด ๆ
ดินจะกลบลบกายวายสังขาร
ไฟจะผลาญเผาซากสิ้นสาบสูญ
แต่ความดีมีอยู่คู่ค้ำจุน
ไว้เป็นทุนแทนซากที่จากไป ฯ
คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า
คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน
คนจะแก่แก่ความรู้ใช่อยู่นาน
คนจะรวยรวยศีลทานใช่บ้านโต ฯ
คนจะรวยรวยศีลทานใช่บ้านโต ฯ
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้ออย่าไปพิไรซื้อ
ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล
จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ ฯ
ปลิ้งปลาหมองอแล้วกลับนี่คำขำ
เจ็บแล้วจำใส่กระบานนี่ขานไข
ผิดแล้วแก้กลับตัวเปลี่ยนหัวใจ
จะมีใครมาวอนไม่สอนคน
ฯ
อันความกรุณาปรานี
จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฝากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
ฯ
ถึงรูปชั่วตัวดำต่ำต้อยศักดิ์
จงฟูมฟักรักตัวอย่ามัวหมอง
คงความดีดังเกลือและเนื้อทอง
อยู่ในคลองธรรมดีไม่มีภัย ฯ
ถ้าใครมีคุณธรรมประจำจิต
ย่อมศักดิ์สิทธิ์เหมือนมงคลอยู่บนหัว
แม้อันตรายความตายมาถึงตัว
ก็ไม่กลัวไม่แพ้แก่มรณา ฯ
อันรสปากหากหวานก็หวานเด็ด
บอระเพ็ดก็ไม่ล้นปากคนขม
ถึงมีดคมก็ไม่ล้นปากคนคม
รสหวานขมขมไม่ล้นปากคนเรา ฯ
จะขยันหมั่นเพียรเรียนหนังสือ
จะไม่ดื้อถือรั้นทำหันหุน
จะเคารพนอบนบครูผู้มีคุณ
จะค้ำจุนสกุลไว้ให้มั่นคง
จะพูดจาปราศรัยไม่โอหัง
จะเชื่อฟังผู้ใหญ่ไม่ใหลหลง
จะฝึกตนจนฉลาดและอาจองค์
จะเป็นใหญ่ไม่ทะนงหลงลืมตัว ฯ
ลูกที่ดีคนเดียวเชี่ยวชาญกว่า
ลูกขี้ขลาดร้อยหน้าหมดราศี
เหมือนจันทร์แย้มแจ่มจ้าในราตรี
หมู่ดาวมีเต็มฟ้าไม่กล้าเทียม ฯ
สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูรัก
สักวันหนึ่งคงประจักเป็นสักขี
สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูดี
สักวันหนึ่งคงได้ดีเพราะมีครู ฯ
สักวันหนึ่งคงได้ดีเพราะมีครู ฯ
อันครูดีศรีของครูชูศิษย์ด้วย
ศิษย์ยิ่งช่วยชูศรีครูยิ่งชูศรี
ครูชูศิษย์เพราะทำกิจสอนศิษย์ดี
ศิษย์ชูครูชูเพราะมีดีต่อครู
ศิษย์จะดีเพราะมีครูช่วยชูเชิด
ครูจะเลิศเพราะคุณธรรมนำสวยหรู
ครูรักศิษย์ศิษย์เทิดเชิดชูครู
เป็นหลักชูในชีวิตศิษย์กับครู ฯ
อันครูดีย่อมเป็นศรีแก่มวลศิษย์
จำเริญวิทวาสนาชูราศี
แม้ศิษย์ดีมีใจใฝ่ไมตรี
ย่อมเป็นศรีแก่ครูผู้การุณ ฯ
นักเรียนดีครูไม่ดีดีไม่ได้
นักเรียนร้ายครูดีดีเป็นหมัน
นักเรียนดีครูดีดีด้วยกัน
โรงเรียนนั้นจักจำเริญดำเนินไกล ฯ
ชีพยังอยู่สู้สร้างทางวิสุทธิ์
เมื่อม้วยมุดหมายมั่นเขาสรรเสริญ
ทางอบายร้ายจงอย่าหลงเดิน
คนเขาเมินหมิ่นชังทั้งยังเป็น ฯ
นักเรียนดีมีธรรมจำเริญศรี
ระเบียบดีชนชมนิยมหมาย
วิชาดีเป็นศรีรับประดับกาย
จักเชิดฉายชูพงศ์วงตระกูล ฯ
จะพูดจาปราศรัยไม่โอหัง
ถ้าชีวิตจิตใจไร้ศีลธรรม
จะใฝ่ต่ำทรามค่าเสียราศี
ตามใจตัวเกลือกกลั้วสิ่งราคี
เลยไม่มีคุณค่าน่าเสียดาย ฯ
เกิดทั้งทีชีวินอย่าสิ้นค่า
ก่อนจะลาโลกจากฝากให้เห็น
เมื่อยังอยู่รู้ธรรมหมั่นบำเพ็ญ
ดับกระเด็นเด่นด้วยเกียรติสวยงาม ฯ
จะเชื่อฟังผู้ใหญ่ไม่ใหลหลง
จะฝึกตนจนฉลาดและอาจองค์
จะเป็นใหญ่ไม่ทะนงหลงลืมตัว ฯ
ลูกที่ดีคนเดียวเชี่ยวชาญกว่า
ลูกขี้ขลาดร้อยหน้าหมดราศี
เหมือนจันทร์แย้มแจ่มจ้าในราตรี
หมู่ดาวมีเต็มฟ้าไม่กล้าเทียม ฯ
สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูรัก
สักวันหนึ่งคงประจักเป็นสักขี
สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูดี
สักวันหนึ่งคงได้ดีเพราะมีครู ฯ
สักวันหนึ่งคงได้ดีเพราะมีครู ฯ
มนุษย์เราอยู่ได้ในโลกนี้
ก็ด้วยมีพื้นดินถิ่นอาศัย
มีธารากินอาบซาบดวงใจ
มีข้าวไว้ยังชีวาให้ถาวร
พสุธาอาศัยได้พำนัก
ร่างกายพักสุโขสโมสร
ส่วนวารีมีคุณอันสุนทร
ดับสิ่งร้อนให้ระรื่นชื่นจิตบาน
แต่ชีวิตจะดำรงคงอยู่ได้
ด้วยอาศัยภักษาธัญญาหาร
ทั้งสามสิ่งยิ่งด้วยคุณาการ
คนโบราณจึงสรรสมัญญา
เรียกว่าแม่ธรณีมีความหมาย
คือพื้นโลกทั้งหลายตลอดหล้า
เรียกแม่น้ำหมายบ่งว่าคงคา
เรียกข้าวว่าแม่โพสพเคารพคุณ
สิ่งทั้งสามนี้ไซร้ไร้วิญญาณ
แต่ด้วยกิจการเอื้อช่วยเกื้อหนุน
ชูชีวิตชาวหล้าด้วยการุญ
จึงได้นามตามอดุลคุณาการ
แต่ว่าแม่บังเกิดเกล้าของเรานี้
เป็นยอดบุพการีที่ไพศาล
รวบรวมทั้งพสุธาคงคาธาร
ธัญญาหารอยู่กับแม่แต่ผู้เดียว ฯ
ผีที่หนึ่งชอบสุราเป็นอาจิณ
ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร
ผีที่สองชอบเที่ยวยามวิกาล
ไม่รักบ้านรักลูกรักเมียตน
ผีที่สามชอบดูการเล่น
ไม่ละเว้นบาร์คลับละครโขน
ผีที่สี่คบคนชั่วมั่วกับโจร
หนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน
ผีที่ห้าชอบเล่นม้ากีฬาบัตร
สารพัดถั่วโปไฮโลสิ้น
ผีที่หกเกียจคร้านการหากิน
รวมทั้งสิ้นหกผีอัปรีย์เอย ฯ
เมื่อเป็นเด็กต้องพากเพียรเรียนขยัน
มุ่งฝ่าฟันริปูสู้ศึกษา
ให้ฉลาดปราชญ์เปรื่องเรืองปัญญา
เพราะวิชาเหมือนทรัพย์นับอนันต์
คนยุคนี้มีทรัพย์เขานับถือ
เงินทองคือพระเจ้าเขาใฝ่ฝัน
เงินทองคือเสน่หาสารพัน
วิชานั้นทองเงินเกินสิ่งใด ฯ
กตัญญูรู้จักคุณจุนสนอง
หวังฉลองพระคุณท่านอย่าโฉดเขลา
น้อยหรือมากไม่ยากแล้วแต่เรา
ย่อมเป็นเงาตามตนของคนดี
ใครทำได้เป็นดีมีศรีศักดิ์
มีคนรักทั่วไปในกรุงศรี
จะไปอยู่บ้านใครไพร่ผู้ดี
ก็เป็นศรีแก่ตนคนรักเอย ฯ
กตัญญูรู้คุณท่านสำคัญนัก
เพราะเป็นหลักของคนดีมีครบถ้วน
ตอบแทนท่านให้งามตามสมควร
คนดีล้วนมีใจมั่นกตัญญู ฯ
เมื่อเกิดมามาตัวเปล่าทั้งเราท่าน
เมื่อวายปราณท่านและเราเผาเป็นผี
ทรัพย์สมบัติตายไปไม่ได้ที
จนหรือมีก็ต้องตายกายเน่าพัง ฯ
คิดกำจัดตัดถากรากตัณหา
อวิชชาชั่วโฉดโทษหันต์
อันเป็นตัวกิเลสมารชาญฉกรรจ์
ให้สูญพันธ์สิ้นเชื้อไม่เหลือเอย ฯ
อันอาวุธในพิภพไม่ลบปาก
ถึงน้อยมากฟันฟาดขาดเป็นสิน
จะเป็นตายดีร้ายจะขายดิน
ในโลกสิ้นสามภพจบเจรจา ฯ